ข่าวสด: 15 ธันวาคม 2558
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. สำนักงานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ เนื่องในโอกาสครบรอบสามปีการหายตัวไปของนายสมบัด สมพอน เจ้าของรางวัลรามอน แมกไซไซ สาขาผู้นำชุมชน ในปีพ.ศ.2548 โดยเป็นจดหมายจ่าถึงรัฐบาลสปป.ลาว ระบุถึงความกังวลจากทุกมุมโลกต่อการหายตัวไป และการขาดการสืบสวนอย่างมีประสิทธิภาพในกรณีของนายสมบัด สมพอน มีใจความว่า
“การหายตัวไปของนายสมบัด สมพอนเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะถึงแม้ว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการลักพาตัวนายสมบัด สมพอน ณ ด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจบนถนนท่าเดื่อ อำเภอสีสัดตะนาก กรุงเวียงจันทน์ ในตอนค่ำของวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2555 จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการสืบสวนเพื่อหาตัวและนำนายสมบัดกลับคืนสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย”
จดหมายดังกล่าวยังตั้งข้อสังเกตว่า จากการหน่วยราชการอ้างว่ามีการดำเนินการสืบสวนอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อถือ เพราะกระทรวงต่างๆ ที่รับผิดชอบยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่เป็นรูปธรรมและโปร่งใสว่า ได้มีการสืบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
“ในทางกลับกันทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและรัฐบาลลาวกลับมิได้ให้การตอบสนองอย่างเพียงพอต่อการร้องขอข้อมูล มักปฏิเสธที่จะตอบสนองใดๆ อีกทั้งยังมีความพยายามที่จะยุติ หรือหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงความกังวลของภาคประชาสังคมลาวและระดับภูมิภาคต่อการบังคับบุคคลให้สูญหายกรณีนายสมบัด สมพอนการบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและอาชญากรรมขั้นร้ายแรง แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลมุ่งมั่นรณรงค์ต่อกรณีการบังคับบุคคลให้สูญหายทั่วโลก รวมถึงผู้ที่หายตัวไปแล้วเป็นเวลาหลายปี โดยบุคคลอันเป็นที่รักซึ่งตกเป็นผู้เสียหายของการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยเช่นกัน ยังคงติดตามชะตากรรมและตามหาตัวสูญหายต่อไป
ในปีหน้าเรามุ่งมั่นรณรงค์เรื่องนี้ต่อไปเพื่อนายสมบัด สมพอน โดยจะหยิบยกกรณีของเขาขึ้นมากล่าวถึงในทุกๆ โอกาส และจะผลักดันให้รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ กระทำเช่นเดียวกันต่อไป
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ขอเรียกร้องให้รัฐบาลลาวภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรี ใส่ใจต่อการเรียกร้องที่ผ่านมาของพวกเรา ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระชุดใหม่เพื่อรับผิดชอบในการทบทวนหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วนและเป็นธรรม รวมถึงการพิจารณาภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งมีรายละเอียดเหตุการณ์การลักพาตัวนายสมบัด สมพอน โดยระบุตัวและสอบสวนผู้ที่ปรากฏในภาพทั้งหมด อีกทั้งให้รายละเอียดเกี่ยวกับรถกระบะสีขาว ซึ่งเป็นพาหนะที่มีผู้พบเห็นนายสมบัดเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อลาวกำลังจะก้าวขึ้นสู่การเป็นประธานอาเซียนในปีพ.ศ. 2559 นี้ สายตาทุกคู่ย่อมหันมาจับจ้องมองประเทศยิ่งกว่าเดิม เป็นที่น่าเสียใจว่า ในปีต่อไปเวทีประชาชนอาเซียน (ASEAN People’s Forum) ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีประธานอาเซียนเป็นเจ้าภาพ แต่กลับไม่ได้จัดขึ้นในประเทศลาว เวทีดังกล่าวเป็นโอกาสที่องค์กรและกลุ่มภาคประชาสังคมในอาเซียนจะมาร่วมกันเพื่อจัดกิจกรรมหลากหลาย และพบปะพูดคุยกันในประเด็นที่ทุกคนในภูมิภาคนี้มีความห่วงใย
หลายกลุ่มหลายองค์กรแสดงความห่วงใยต่อกรณีการหายตัวไปของนายสมบัด สมพอนเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ โดยปิดกั้นมิให้ลาว โดยเฉพาะภาคประชาสังคม ได้รับประโยชน์จากการพบปะกันครั้งนี้
ท้ายนี้ พวกเราผู้ลงนาม มีความคาดหวังอย่างจริงใจว่า หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะยอมรับข้อเสนอทั้งหมดที่ว่าด้วยการให้ความช่วยเหลือในการตามหาตัวนายสมบัด สมพอนอย่างแท้จริง”