กรุงเทพฯ – รัฐบาลลาวควรแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่จากการสอบสวนคดีการลักพาตัวนายสมบัด สมพอนกับครอบครัวของเขาและหน่วยงานอิสระ ต้องยุติการเล่นเกมบิดเบือนโดยอ้างหลักอธิปไตยของชาติเป็นข้อแก้ตัว และไม่ยอมปรึกษาหารืออย่างจริงจังในด้านการสอบสวนคดีคนหายคดีนี้ สมาชิกรัฐสภาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวในวันนี้
“ทางการลาวได้ตั้งกำแพงของความเงียบเพื่อปิดกั้นการสอบสวน จนถึงขนาดที่อาจกล่าวได้ว่าในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีการสอบสวนเกิดขึ้นเลย และความดื้อดึงเช่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกลบเกลื่อนบทบาทของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวครั้งนี้” นายชาร์ล ซานติเอโก (Charles Santiago) สส.มาเลเซียและรองประธานองค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าว
“เราถือว่าคุณสมบัดเป็นพลเมืองของอาเซียน ไม่ใช่เฉพาะของลาว เราจึงมีสิทธิและหน้าที่ในการค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่การเล่นเกมถ่วงเวลา การปฏิเสธไม่รับความช่วยเหลือ การให้ข้อมูลเท็จและการแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรในบางครั้งของทางการลาวเมื่อถูกสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสวน เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความน่าเบื่อหน่าย ไม่เพียงเฉพาะในสปป.ลาว แต่เกิดขึ้นกับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด”
สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนเดินทางไปยังสปป.ลาวระหว่างวันที่ 15-20 กันยายน ทั้งนี้เพื่อค้นหาความจริงและติดตามผลการสอบสวนชะตากรรมของคุณสมบัด ในระหว่างการเดินทางไปเยือนครั้งนี้ บรรดาสส.ได้พบกับตัวแทนของรัฐบาลลาว สภานิติบัญญัติแห่งชาติและกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งนาย Phoukong Sisoulath ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศลาวในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ASEAN Inter-Governmental Commission on Human Rights – AICHR)
นอกจากปัญหากรณีคุณสมบัดแล้ว สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนยังตกใจกับสภาพความหวาดกลัวและการกดขี่ปราบปรามที่ทางการลาวกระทำต่อภาคประชาสังคมของตนเอง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการบังคับบุคคลให้สูญหายกรณีคุณสมบัดเมื่อเดือนธันวาคม 2012 องค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนตกใจกับมาตรการควบคุมเสรีภาพเพิ่มเติม จากการผลักดันร่างพระราชบัญญัติใหม่สองฉบับในรัฐสภา เพื่อควบคุมการดำเนินงานของหน่วยงานไม่แสวงหากำไรในประเทศและจากต่างประเทศ กฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายควบคุมและตรวจสอบแหล่งทุน รวมทั้งจำกัดประเด็นปัญหาที่หน่วยงานเหล่านี้สามารถเข้าไปทำงานและเกี่ยวข้องด้วย
ในระหว่างการประชุม องค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนได้มีข้อเสนอที่ชอบธรรมและเหมาะสมต่อนาย Phoukhong และตัวแทนของรัฐบาลลาว ทั้งนี้เพื่อแก้ไขอุปสรรคที่ขัดขวางการสอบสวนกรณีการหายตัวไปของคุณสมบัด โดยประกอบด้วยการกำหนดให้มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกรณีเร่งด่วนหรือฮอตไลน์ และการให้รางวัลสำหรับเบาะแสในคดีนี้ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในที่อื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดตอนที่มีการลักพาตัวเขาไปได้อย่างเหมาะสม และให้มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำอยู่ที่ป้อมยามตำรวจตอนที่คุณสมบัดถูกลักพาตัว แต่ทางการลาวปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอเหล่านี้ทันที โดยกล่าวหาว่าไม่สอดคล้องกับ “จารีตแบบลาว” ทั้งทางการยังปฏิเสธคำร้องขอที่จะเข้าถึงสำนวนคดี และการขอเข้าพบกับหัวหน้าเจ้าพนักงานผู้สอบสวนคดีนี้
แม้ว่าองค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนจะขอบคุณต่อทางการลาวที่อนุญาตให้มีการเดินทางครั้งนี้ และยอมรับว่าการพูดคุยที่เกิดขึ้นมีลักษณะที่เป็นมิตรและเป็นมืออาชีพ แต่คำตอบที่เราได้รับยังเป็นเรื่องน่าผิดหวังอย่างมาก ในทำนองเดียวกับความพยายามอย่างต่อเนื่องของทางการลาวที่จะปิดกั้นไม่ให้มีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการหายตัวไปของคุณสมบัด
องค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนทราบว่า ทางผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำสปป.ลาวได้รับการร้องขอให้ตัดเนื้อหาส่วนที่เกี่ยวกับการหายตัวไปของคุณสมบัด ออกไปจากรายงานที่ประเทศลาวจะส่งมอบให้กับคณะกรรมการทบทวนด้านสิทธิมนุษยชนตามวาระ หรือ Universal Periodic Review แต่ทางผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำสปป.ลาวไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอของรัฐบาลลาว ในขณะที่ผู้ปฏิบัติงานในองค์กรพัฒนาเอกชนและหน่วยงานภาคประชาสังคมต่างต้องปิดปากตัวเอง เพราะกลัวว่าจะถูกตอบโต้หากเข้าไปมีบทบาทในประเด็นที่ถือว่าอ่อนไหวมากสุดสำหรับรัฐบาลลาวในปัจจุบัน
“ทางการลาวแสดงท่าทีเข้มงวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนจะมีความพยายามอย่างเป็นระบบที่จะทำลายการสอบสวนในเรื่องพื้นฐานมากสุด และเป็นข้อมูลที่ไม่อาจโต้แย้งได้” นายซานติเอโกกล่าว
“คนที่พยายามขอคำตอบอย่างซื่อสัตย์ต่อคำถามพื้นฐานเหล่านี้ กำลังถูกปฏิบัติเหมือนเป็นผู้ยุยงปลุกปั่นและเป็นศัตรู เป็นการบิดเบือนความจริงของสถานการณ์อย่างไม่อาจยอมรับได้”
ถ้ารัฐบาลลาวมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหานี้ และมีความกังวลเช่นเดียวกับพวกเราทุกคน เหตุใดจึงมีความพยายามขัดขวางช่องทางที่เป็นไปได้ของการสอบสวน? องค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนถาม
จุดยืนใหม่ของรัฐบาลคือการยืนยันว่าบุคคลที่อยู่ในภาพจากกล้องวงจรปิด อาจไม่ใช่คุณสมบัด และมีความพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของการสอบสวนของหน่วยงานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ทำการสอบสวนกรณีการหายตัวไปของคุณสมบัด ตัวแทนสปป.ลาวยังแสดงท่าทีว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดไม่ได้มีประโยชน์หรือไม่น่าจะทำให้เกิดข้อสงสัยใด ๆ ที่ผ่านมาทางการลาวไม่ยอมเผยแพร่ภาพวีดิโอต้นฉบับเพื่อให้หน่วยงานอิสระตรวจสอบได้
องค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนย้ำต่อทางการลาวว่า ในปัจจุบันมีความขุ่นเคืองและไม่พอใจอย่างกว้างขวางต่อการสอบสวนคดีนี้ รวมทั้งต่อภาพรวมของสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศลาว
องค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนแนะนำรัฐบาลลาวว่า มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ และอาจกระทบต่อการเข้าถึงเงินกู้เพื่อการพัฒนาของลาว และความพยายามที่จะเข้าไปนั่งเป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในปี 2016 ด้วย
“หากเราไม่สามารถคลี่คลายคดีการหายตัวไปของคุณสมบัด สมพอนได้ภายในปี 2016 จะกลายเป็นเมฆดำถาวรที่ปกคลุมความเป็นผู้นำของลาวในอาเซียน และจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขึ้นดำรงตำแหน่งประธาน รวมทั้งผลกระทบจากการปราบปรามมากขึ้นที่มีต่อภาคประชาสังคม” คุณซานติเอโกกล่าว
รัฐบาลลาวส่งสัญญาณยอมรับความร้ายแรงของอาชญากรรมการบังคับบุคคลให้สูญหาย โดยมีการลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลสูญหาย (Convention Against Enforced Disappearance) ในวันที่ 29 กันยายน 2008 ในทำนองเดียวกัน ทางการลาวต้องประกันว่า เจ้าพนักงานของรัฐจะต้องไม่ปฏิบัติในทางตรงข้ามกับวัตถุประสงค์และเป้าประสงค์ของสนธิสัญญาฉบับนี้ และต้องถูกกดดันให้ปฏิบัติตามพันธกิจนั้น
ในปัจจุบัน มีการจำกัดเสรีภาพของการแสดงออก และการควบคุมภาคประชาสังคมในลาวอย่างเข้มงวด องค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนเรียกร้องทางการลาวให้เคารพและคุ้มครองสิทธิของผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนและหน่วยงานภาคประชาสังคมอื่น ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่น ต้องมีการยกเลิกข้อจำกัดที่เกิดจากกฎหมายและการปฏิบัติซึ่งขัดขวางการทำงานของหน่วยงานภาคประชาสังคมในลาว และมีการปรับปรุงให้ข้อบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมโดยสงบและการสมาคม สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
สมาชิกองค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนหลายท่าน ยังเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนที่ไปเยือนสปป.ลาวเพื่อสอบถามความคืบหน้าการสอบสวนกรณีการหายตัวไปของคุณสมบัดในเดือนมกราคม 2013 โดยมีผู้เดินทางประกอบด้วยสส.วอลเดน เบลโล (Walden Bello) จากฟิลิปปินส์ และสส.ชาร์ล ซานติเอโก จากมาเลเซีย บรรดาเจ้าหน้าที่ที่สส.ทั้งสองท่านได้พบต่างยอมรับว่า การหายตัวไปของคุณสมบัดส่งผลกระทบอย่างมากต่อชื่อเสียงของสปป.ลาว แต่คำตอบที่ได้รับยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และบรรดาสส.ได้แจ้งให้ตัวแทนของลาวได้ทราบ
องค์การสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนรู้สึกยินดีกับความพยายามและความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของผู้แทนการทูตประเทศต่าง ๆ ในเวียงจันทน์ รวมทั้งรัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาในยุโรปและที่อื่น ๆ พวกเขายังคงแสดงความกังวลในเรื่องนี้ต่อทางการลาว
They intimidated the whole country by eliminating my friend, Sombath. We should not be scared. We will speak out, encourage Lao people to do so. They cannot eliminate all of us