สำนักข่าวอิศรา: 15 มีนาคม 2013
เยาวชน ไทยลุ่มน้ำโขงยื่นหนังสือสถานทูตลาว เรียกร้อง-รณรงค์ตามหา ‘สมบัด สมพอน’ อดีตนักพัฒนาแมกไซไซหายตัวลึกลับ คาดเหตุช่วยชาวบ้านขัดผลประโยชน์
วันที่ 15 มี.ค. 56 ที่สถานทูตลาวประจำประเทศไทย เครือข่ายเยาวชนไทยและแม่น้ำโขง ประมาณ 30 คนเข้ายื่นหนังสือถึง ฯพณฯ ทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีประเทศลาว พร้อมสำเนาถึงประธานสภาแห่งชาติ ประเทศลาว กรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันความสงบ ประเทศลาว เลขาธิการอาเซียน และสมาชิกคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ให้มีการสืบค้นหาตัว นายสมบัด สมพอน ผู้ได้รับรางวัลรามอนแมกไซไซ สาขาบริการชุมชน ปี 48 ภายหลังถูกกลุ่มบุคคลนิรนามลักพาตัวหายไปด้วยรถกระบะ หลังจากถูกตำรวจเรียกให้หยุดที่ด่านตรวจบนถนนท่าเดื่อ อ.ศรีสัดตะนาก กรุงเวียงจันทร์
โดยหนังสือมี ใจความว่า ประเทศลาวเป็นภาคีของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการ เมือง โดยในม. 9 ได้กล่าวถึงการคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพและความปลอดภัยของบุคคล และยังลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลสูญหาย นอกจากนี้ประเทศลาวและประเทศสมาชิกของอาเซียนได้ลงนามร่วมกันในปฏิญญาสิทธิ มนุษยชนอาเซียน ดังนั้น ลาวจึงต้องสนับสนุน ส่งเสริม และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ เรียกร้องให้หน่วยงานข้างต้น ตระหนักว่า การลักพาตัวสมบัด สมพอน คืออาชญกรรมต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคแม่น้ำโขงของอาเซียน เป็นสิ่งขัดขวางการพัฒนาของภูมิภาคนี้ อีกทั้งละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน ซึ่งเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ควรได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นด้วยความสมานฉันท์
นอกจาก นี้ต้องสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนการถูกลักพาตัวไปอย่างเร่ง ด่วนและโปร่งใส ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ พร้อมเปิดเผยข้อมูลความคืบหน้าในการสืบสวนอย่างครบถ้วนแก่ครอบครัวของสมบัด และบุคคลอื่นที่ควรได้รับ ที่สำคัญจะต้องรับรองว่าจะตามหาสมบัดอย่างถึงที่สุดด้วยมาตรการทั้งหมดที่มี เพื่อช่วยเหลือให้กลับสู่ครอบคัวโดยเร็วที่สุด
น.ส.ศักดิ์สินี เอมะศิริ แกนนำเครือข่ายเยาวชนไทยและแม่น้ำโขง กล่าวว่า การหายตัวไปของท่านสมบัด สมพอน บอกไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นกรณีเดียวกับการหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร และบุคคลอื่น ๆ ในอดีตที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ขัดผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าท่านสมบัด สมพอน ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเราจะสานต่อเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างเยาวชนด้วยกัน ตามที่ท่านเคยมีแนวทางช่วยเหลือเยาวชนในภูมิภาคอาเซียนเกี่ยวกับการส่งเสริม การเรียนรู้และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
“เรา ในฐานะเยาวชนจะทำกิจกรรมเรียกร้องตามหาท่านสมบัดด้วยสันติวิธี โดยไม่จำเป็นต้องไปด่า ประท้วง หรือโวยวาย แต่เราจะทำในศักยภาพของเยาวชนผ่านการแสดงออกหลายหลายแง่มุม เช่น ศิลปะ ดนตรี การแสดง” แกนนำเครือข่ายฯ กล่าว